คณะวิทยาการสื่อสารจับมือบริษัท เกียร์เฮด จำกัด
MOU พัฒนากำลังคนด้านภาพยนตร์และสื่อบันเทิง

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการให้บริการจัดหาอุปกรณ์และการสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา คณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร และ นายชยานนท์ อุลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด ร่วมลงนาม ในโอกาสนี้ทั้งสองหน่วยงานได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันในด้านการจัดการเรียนการสอนด้านการผลิตสื่อภาพยนตร์ของคณะวิทยาการสื่อสาร และการดำเนินธุรกิจของ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด รวมถึงการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน จากนั้นได้เยี่ยมชมอุปกรณ์การถ่ายทำและสถานที่ต่าง ๆ ของบริษัทที่ให้บริการแก่ผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการบันเทิงต่าง ๆ

คณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร กล่าวว่า การลงนาม MOU กับ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้านการยกระดับเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ซึ่งส่วนหนึ่งมีการกำหนดให้พื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่างมีศักยภาพในเชิงการท่องเที่ยวผ่านสื่อภาพยนตร์ โดยศักยภาพของภาคเอกชนจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ตั้งแต่การพัฒนาบุคลากรด้านสื่อภาพยนตร์ การสนับสนุนการเรียนการสอน การฝึกอบรม และสหกิจศึกษา

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ผู้แทนของ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนและอุปกรณ์การถ่ายทำรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์มาแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคณะวิทยาการสื่อสารยังได้ส่งนักศึกษาจากสาขานวัตกรรมการออกแบบสื่อ ไปร่วมฝึกอบรมด้านการจัดแสงกับบริษัทในช่วงปิดภาคการศึกษาที่ผ่านมา และในเดือนพฤศจิกายนนี้ คณะวิทยาการสื่อสารจะจัดกิจกรรมทัศนศึกษา โดยนำนักศึกษาไปเยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท และจะมีการส่งนักศึกษาไปปฏิบัติสหกิจศึกษาในภาคการศึกษาที่ 2/2568 นี้ด้วย

ข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนกับผู้บริหารของ บริษัท เกียร์เฮด จำกัด มีประเด็นน่าสนใจ ได้แก่ พื้นที่ภาคใต้ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตภาพยนตร์มากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต และพังงา ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งนำมาสู่กระแสการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น การสร้างภาพลักษณ์ของพื้นที่ให้เป็นที่จดจำสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์นั้นจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือกับสำนักงานกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น เทศกาลภาพยนตร์ เป็นต้น การสร้างความพร้อมในระดับพื้นที่ให้สามารถรองรับกองถ่ายภาพยนตร์ได้ ดังที่บริษัทกำลังหารือความเป็นไปได้กับเทศบาลเมืองพัทยาอยู่ในเวลานี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยสามารถสร้างความพร้อมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สนใจได้ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง