นักวิชาการคณะวิทยาการสื่อสารจับมือเครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้พัฒนาฐานข้อมูลสาธารณะและสติกเกอร์ไลน์เพื่อเฝ้าระวังข้อมูลเท็จ
การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จในพื้นที่การสื่อสารเป็นปัญหาสำคัญที่ภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (False information) ก่อให้เกิดปัญหาการหลอกลวง สร้างความขัดแย้งและความเกลียดชังในสังคม ใช้เป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมืองที่ทำให้มีการแบ่งฝักฝ่าย การคุกคามและทำลายความเชื่อถือต่อบุคคล องค์กร และประเทศ เป็นต้น หากมองในมิติการคุ้มครองผู้บริโภค พบว่า ข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือเป็นหนึ่งในห้าข้อของสิทธิผู้บริโภค โดยเป็นสิทธิผู้บริโภคลำดับที่หนึ่ง จึงสะท้อนว่า ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค จากความสำคัญดังกล่าวทำให้นักวิชาการคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สนใจศึกษาปัญหาข้อมูลเท็จในมิติสิทธิผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นักวิจัยในโครงการวิจัย เรื่อง “การศึกษาและสร้างสรรค์สื่อเพื่อเฝ้าระวังข้อมูลผิดพลาดสำหรับเครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้” ร่วมกับสมาคมผู้บริโภคสงขลาและเครือข่ายเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ภาคใต้จัดอบรมเรื่องนักตรวจสอบข้อมูลเท็จ และการสร้างความเข้าใจในโครงการวิจัยดังกล่าวแก่อาสาสมัครเฝ้าระวังข้อมูลเท็จ จำนวน 20 คนจาก 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา อาจารย์ประจำสาขานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสื่อสาร หนึ่งในนักวิจัย กล่าวว่า การอบรมนักตรวจสอบข้อมูลเท็จเป็นการทบทวนความรู้และทักษะการรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสารของเครือข่ายผู้บริโภค นักวิจัยยังได้แนะนำและฝึกปฏิบัติการใช้เครื่องมือตรวจสอบข้อมูลเท็จ เช่น แนวทางการค้นหาข้อมูลจากเสิร์ชเอ็นจิ้น การค้นหาและส่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบตามช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเท็จ เป็นต้น นอกจากนี้ยังแนะนำการใช้ ChatGPT เพื่อหาค้นหาความรู้ต่าง ๆ และการประยุกต์ใช้สำหรับการตรวจสอบข้อมูลเท็จ
นายชินวัติ แก้วดอนหวาย จากเครือข่ายผู้บริโภค จ.สงขลา ให้ข้อมูลถึงปัญหาการใช้สื่อออนไลน์ของประชาชนในพื้นที่ว่า มีการให้ข้อมูลเท็จเพื่อหลอกลวงผ่านสื่อสังคม โดยเฉพาะการหลอกให้สมัครงาน การหลอกให้กู้เงิน ด้วยการส่งข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือจากนั้นก็ให้กดลิงก์เพื่อหลอกเหยื่อให้ส่งข้อมูลส่วนตัวแก่มิจฉาชีพ เมื่อกระแสการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมาอีกครั้งหนึ่งก็มีการส่งข้อมูลต่อ ๆ กันมากขึ้นเกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรต่าง ๆ ในการป้องกันโควิด-19 โดยไม่มีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ
เช่นเดียวกับเครือข่ายผู้บริโภคภูเก็ต นางวารุณี สกุลรัตนธารา ประธานสภาองค์กรชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต เล่าประสบการณ์การหักล้างข้อมูลเท็จในสื่อสังคมว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ค่อยมีเทคนิคการหักล้างข้อมูลเท็จในสื่อสังคมมากนักทำให้เมื่อพิมพ์ข้อความเพื่อบอกข้อเท็จจริงแก่ผู้ที่ส่งข้อมูลเท็จแล้วอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในชุมชนออนไลน์ด้วย แต่เมื่อมีโอกาสเรียนรู้จากเครือข่ายเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้มีศิลปะในการใช้ภาษาเพื่อหักล้างข้อมูลเท็จพร้อม ๆ กับการรักษาความสัมพันธ์กับสมาชิกในชุมชนออนไลน์ด้วย และยังเป็นที่พึ่งของสมาชิกให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลเท็จด้วย
จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นโจทย์หนึ่งของนักวิจัยในการพัฒนาสื่อสติกเกอร์ไลน์เพื่อตอบสนองต่อข้อมูลเท็จในแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งเป็นสื่อสังคมที่ประชาชนใช้เป็นช่องทางสื่อสารระหว่างกันว่าควรมีสติกเกอร์ไลน์รูปแบบอย่างไรในการเฝ้าระวังและลดทอนอิทธิพลของข้อมูลเท็จที่เป็นเอกลักษณ์ของเครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้ พร้อม กับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่มด้วย โครงการวิจัยนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลสำหรับการสื่อสารสาธารณะในการเฝ้าระวังข้อมูลเท็จของเครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้
โครงการวิจัย เรื่อง “การศึกษาและสร้างสรรค์สื่อเพื่อเฝ้าระวังข้อมูลผิดพลาดสำหรับเครือข่ายผู้บริโภคภาคใต้” มีนักวิจัยประกอบด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา อาจารย์อับดุลรอนี สาแมง อาจารย์ประจำสาขานิเทศศาสตร์ และอาจารย์ฐิติมา เทพญา อาจารย์ประจำสาขาวิชาคอมพิวเตอร์และวิทยาการสารสนเทศเพื่อการจัดการ คณะวิทยาการสื่อสาร โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนวิจัย คณะวิทยาการสื่อสาร สมาคมผู้บริโภคสงขลา และเครือข่ายเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ภาคใต้
[ux_gallery ids=”4807,4808,4809,4810,4811,4812,4813,4814,4815,4816,4817″ style=”default” lightbox_image_size=”original” type=”slider” col_spacing=”small” columns=”3″ depth_hover=”1″ slider_bullets=”true” auto_slide=”3000″ image_height=”75%” image_size=”original”]



