“สื่อไม่ได้มีไว้แค่บอก แต่ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลง”

“สื่อไม่ได้มีไว้แค่บอก แต่ต้องสร้างการเปลี่ยนแปลง”

“คุณสรณียา เจ๊ะเฮง” ศิษย์เก่าสาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสื่อสาร ผู้ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ประเภทศรีตรังช่อใหม่ ด้านสื่อสร้างสรรค์และการสื่อสารสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ประจำปี 2568 ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นสื่อมวลชน ที่องค์การกระจายเสียงสาธารณะและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (สสท.) หรือ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส (ศูนย์ภาคใต้) ได้กล่าวถึงมุมมองของสื่อในยุคปัจจุบันว่าการทำงานด้านสื่อสารมวลชนต้องแข่งกับเวลาและอัลกอริทึม เธอคือหนึ่งในคนทำงานรุ่นใหม่ที่เลือกใช้ “สื่อ” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพียงเพื่อรายงานข่าว แต่เพื่อ “เชื่อมโยงผู้คน” ให้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของสังคม สำหรับรางวัลที่เธอได้รับในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแห่งความสำเร็จส่วนตัว แต่คือ “พลังแห่งศรัทธา” ของคนทำงานสื่อเพื่อสาธารณะ ที่เชื่อว่าการสื่อสารที่ดีสามารถขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นได้จริง

“รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจมากค่ะ เพราะรางวัลนี้ไม่ใช่แค่ของตังเอง แต่เป็นเหมือนเสียงสะท้อนว่า สิ่งที่เราเรียนรู้จากคณะวิทยาการสื่อสารถูกนำมาใช้จริง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับท้องถิ่น”

คุณสรณียา เริ่มเส้นทางสายสื่อกับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) ทันทีหลังเรียนจบ เพราะช่วงเรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะในพื้นที่การสื่อสารของพลเมือง ซึ่งเปิดโลกให้เห็นว่า สื่อสามารถเป็นเครื่องมือของการมีส่วนร่วมได้จริง

“เรามองว่าสื่อสาธารณะไม่ควรมีแค่หน้าที่ ‘บอก’ แต่ต้องเชื่อมโยงให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการสะท้อนปัญหาและเล่าเรื่องของตัวเองได้ เพราะคนในพื้นที่คือคนที่เข้าใจพื้นที่ตัวเองดีที่สุด”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอทำงานกับสำนักเครือข่ายและการมีส่วนร่วมสาธารณะของไทยพีบีเอส ทั้งงานหน้าจอ งานเทรนนิ่ง และการจัดเวทีเสวนาในระดับพื้นที่ เช่น “วงฟังเสียงประเทศไทย” รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายนักข่าวพลเมืองในภาคใต้ ซึ่งเธอให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงาน (Process) มากพอ ๆ กับผลลัพธ์ เพราะสำหรับเธอการสร้างการมีส่วนร่วมคือ “หัวใจของสื่อสาธารณะ” ที่จะทำให้ทุกเสียงจากท้องถิ่นถูกได้ยิน จากประสบการณ์การทำงาน เธอยอมรับว่าความสำเร็จในงานสื่อไม่ได้อยู่ที่ยอดวิวหรือจำนวนการแชร์ แต่คือ “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นจริงในสังคม มองว่าความสำเร็จของตัวเอง คือการที่งานสื่อสามารถจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง ทั้งในระดับพื้นที่และนโยบาย นั่นคือสิ่งที่เติมพลังให้ทำงานด้านสื่อต่อไป

สำหรับแรงบันดาลใจในการทำงานเกิดจากการได้เห็น “นักข่าวพลเมือง” และ “ผู้ผลิตอิสระ” นำเสนอเรื่องราวของชุมชนตัวเองอย่างจริงใจ จนเกิดผลลัพธ์เชิงนโยบาย นั่นคือช่วงเวลาที่เธอรู้ว่า การสื่อสารเพื่อสาธารณะมีพลังมากกว่าที่คิด หากย้อนมองกลับไป เธอยังยืนยันว่าคณะวิทยาการสื่อสารคือจุดเริ่มต้นสำคัญ

“ที่นี่ไม่ได้ให้แค่ความรู้ แต่ให้ ‘หลักคิด’ และ ‘เครื่องมือ’ ที่ใช้ได้จริงในการทำงาน ทุกวันนี้ก็ยังได้รับคำแนะนำจากอาจารย์อยู่ตลอด และยังร่วมกันทำโปรเจคเพื่อสาธารณะหลายชิ้นด้วยค่ะ”

          ในฐานะศิษย์เก่าดีเด่น เธออยากเปิดพื้นที่ให้นักศึกษารุ่นใหม่ได้ “ทดลองจริง” โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากหลาย โดยอยากเป็นตัวกลางเชื่อมโยงคณะกับหน่วยงานและผู้ผลิตอิสระ เพื่อให้น้อง ๆ ได้ฝึกทำงานจริง ส่งผลงานข่าวเข้าสู่ช่องทางสื่อพลเมืองของไทยพีบีเอสได้ เพราะพื้นที่จริงคือครูที่ดีที่สุด

สำหรับทักษะที่คนรุ่นใหม่ต้องมี เธอมองว่า “ความคิดสร้างสรรค์” คือทักษะสำคัญที่สุดของคนยุคนี้ ซึ่งทุกงานต้องอาศัย Creativity ไม่ใช่แค่คิดใหม่ แต่ต้องคิดให้แตกต่างและนำไปสู่การแก้ปัญหาได้จริง สามารถสร้าง “พื้นที่ร่วม” ที่ผู้คนได้พูดคุย แลกเปลี่ยน และหาทางออกจากปัญหาด้วยกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเธอมองว่านั่นคือความสำเร็จของการทำหน้าที่สื่อสาธารณะอย่างแท้จริง

คุณสรณียาย้ำเสมอว่า หน้าที่ของคนทำงานสื่อคือ “กระจายอำนาจการเล่าเรื่อง” ให้กับผู้คน

“เราไม่ควรผูกขาดการเล่าเรื่องไว้ที่เราคนเดียว แต่ต้องส่งต่อพลังนั้นให้กับนักข่าวพลเมือง ผู้ผลิตอิสระ และชุมชน เพราะเสียงของพวกเขาคือหัวใจของการสื่อสารเพื่อสาธารณะค่ะ”

“คุณสรณียา เจ๊ะเฮง” ตัวแทนของคนทำงานสื่อรุ่นใหม่ ที่ใช้ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคม ด้วยความเชื่อในพลังของการสื่อสารและหัวใจของการมีส่วนร่วม

เรียบเรียงโดย ….นางสาวพัชรกัญญ์ ยังปากน้ำ

Social Share