เมื่อวันที่ 28 เมายน 2568 โครงการ Ecotive ได้จัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนสู่อินฟลูเอนเซอร์ด้านการขาย ผ่านรายการไลฟ์สด “ช็อปสนุกทุกนาที Ecotive Flash Live” ทางเพจ Ecotive ตอนที่ 2 ภายใต้ธีม “กินดี : อาหารท้องถิ่นและสุขภาพ” โดยมีกิจกรรมเสวนากับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จ กับคุณจินตนา ล่ากูด แบรนด์น้ำสลัด KRUA AFNHA และคุณเยาวนารถ แซ่ปุย แบรนด์ปลากุเลา TAI-UN เพื่อเสริมพลังผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดปัตตานี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น ผ่านรายการสดออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการมองเห็น และส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่
ทั้งนี้ผู้ประกอบการชุมชนที่เข้าร่วมโครงการได้นำสินค้ามาจัดกิจกรรมไลฟ์ขายจริง เช่น น้ำสลัด KRUA AFNHA ปลากุเลา TAI-UN และปลาส้มคุณนาย โดยรายการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการวิจัยและพัฒนาระบบนิเวศสร้างสรรค์ (Ecotive) เพื่อการเป็นผู้ประกอบการรายย่อยสู่โมเดลพึ่งตนเองแก้จนจังหวัดปัตตานี ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการสร้างระบบนิเวศที่เกื้อหนุนการเติบโตของผู้ประกอบการในระดับชุมชน
คุณเยาวนารถ แช่ปุย ผู้ประกอบการจากอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ Ecotive ได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นธุรกิจปลากุเลาเค็ม “ไทอัน” ซึ่งเกิดจากความตั้งใจจะใช้เวลาหลังเกษียณอย่างมีคุณค่า ด้วยการสร้างอาชีพใหม่ที่ยึดโยงกับทรัพยากรในชุมชน โดยร่วมมือกับลูกชายที่เพิ่งจบการศึกษา ทั้งสองมองเห็นคุณค่าของปลากุเลาเค็ม ของดีพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อและนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการพัฒนาสูตร จนได้รสชาติที่ลงตัว
“เราเริ่มธุรกิจจากศูนย์ ค่อย ๆ ทดลองและพัฒนาสูตรปลากุเลาเค็มนานกว่า 1 ปี ด้วยความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ กลมกล่อม และเก็บรักษาได้ยาวนาน ปัจจุบัน ปลากุเลาเค็มไทอัน เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาด มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รู้สึกภูมิใจมากค่ะ ที่ความตั้งใจเล็ก ๆ ของเรากลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้จริง คุณเยาวนารถ กล่าว
โครงการ Ecotive ดำเนินงานภายใต้การนำของ ดร.ศริยา บิลแสละ หัวหน้าโครงการ จากสาขาวิชาคอมพิวเตอร์และวิทยาการสารสนเทศเพื่อการจัดการ (CIM) คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยมีทีมวิจัยร่วม ได้แก่ ดร.มูอัสซัล บิลแสละ, ดร.วรรนิศา มัจฉา และ ดร.ภักดี ต่วนศิริ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ตั้งแต่ปี 2565 โดยโครงการนี้ถือเป็นตัวอย่างของ “วิจัยเพื่อการเปลี่ยนแปลง” ที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ ด้วยการใช้ความรู้เป็นเครื่องมือพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
